รีวิว ASUS ROG Ally X สุดยอดเกมมิ่งพีซีพกพา สเปคแรง จอสวย แบตอึด!
ASUS ROG Ally สร้างคลื่นความตื่นเต้นให้กับวงการเกมพกพาได้ไม่น้อย แม้จะเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ แต่กลับสามารถท้าชน Steam Deck ของ Valve ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ ด้วยประสิทธิภาพที่เหนือกว่า ในราคาที่ไม่หนีกันมาก ยิ่งไปกว่านั้น การใช้ระบบปฏิบัติการ Windows ยังทำให้ ROG Ally เป็นมิตรกับเกมเมอร์ PC ที่คุ้นเคยกับระบบนี้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ปัญหาเดิม ๆ อย่างแบตเตอรี่ที่หมดไว และช่องเสียบการ์ด SD ที่มีปัญหา ก็ยังคงเป็นจุดอ่อนที่ต้องได้รับการแก้ไข
และแล้ว ASUS ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยการเปิดตัว ROG Ally X ที่ได้รับการปรับปรุงข้อบกพร่องต่าง ๆ แทบทั้งหมด ยกเว้นชิปประมวลผลและหน้าจอ ผลลัพธ์ที่ได้คือ สถานีเล่นเกมพกพาที่ทรงพลังและครบครัน พร้อมมอบประสบการณ์การเล่นเกมระดับเทพ ได้ทุกที่ ทุกเวลา
ดีไซน์และหน้าจอ: โฉมใหม่ ไฉไลกว่าเดิม จับถนัดมือ เล่นเกมลื่นไหล
มองเผินๆ อาจดูเหมือนว่า ASUS เพียงแค่เปลี่ยนสี ROG Ally X จากขาวเป็นดำ แต่เมื่อสัมผัสจริง จะพบว่ามีรายละเอียดที่เปลี่ยนไปมากมาย เริ่มจากบริเวณ Grip ที่ได้รับการออกแบบใหม่ ให้ความรู้สึกกระชับมือ จับถนัดขึ้น ปุ่มด้านหน้ามีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย กดใช้งานได้ง่าย ส่วน Paddle ด้านหลังกลับมีขนาดเล็กลง เพื่อป้องกันการเผลอไปโดน
D-Pad เองก็ได้รับการออกแบบใหม่ ให้ความรู้สึกที่ดีขึ้นกว่าเดิม แม้ส่วนตัวแล้วผู้เขียนจะยังชอบแบบกากบาทดั้งเดิม หรือแบบห้าเหลี่ยมของ Sony มากกว่า
ภายใน ASUS เลือกใช้สปริงที่แข็งแรงขึ้นสำหรับจอยสติ๊ก ทำให้ควบคุมได้แม่นยำและตอบสนองไว ลดอาการ Drift ที่มักพบในจอยสติ๊กทั่วไป แต่ก็ยังไม่ได้ใช้เซ็นเซอร์แบบ Hall Effect เหมือนที่พบใน Lenovo Legion Go ซึ่งน่าเสียดายอยู่เล็กน้อย
นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มช่องระบายอากาศที่ 3 และพัดลมใหม่ ช่วยระบายความร้อนได้ดีขึ้น ลดปัญหาเครื่องร้อนเวลาเล่นเกมนานๆ แม้ด้านหลังเครื่องจะยังร้อนอยู่บ้างก็ตาม
ถึงแม้จะมีการปรับปรุงมากมาย แต่ ROG Ally X ก็ไม่ได้ใหญ่หรือหนักไปกว่ารุ่นเดิมมากนัก โดยมีน้ำหนัก 678 กรัม และหนา 36.9 มิลลิเมตร (รุ่นเดิมหนัก 608 กรัม และหนา 32.4 มิลลิเมตร)
หน้าจอ 1080p ยังคงเหมือนเดิม ให้ความสว่างสูงสุดที่ 500 นิต (รุ่นที่รีวิวทำได้ 515 นิต) และอัตรารีเฟรชเรท 120Hz ตอบโจทย์การเล่นเกมบนหน้าจอขนาดนี้ได้ดี แถมระดับสีดำยังทำได้ดีจนแยกไม่ออกเลยว่าไม่ใช่หน้าจอ OLED
ประสิทธิภาพ: อัปเกรด แรงจัดเต็ม เล่นเกมลื่น เฟรมเรทพุ่งกระฉูด
ชิปประมวลผล AMD Ryzen Z1 Extreme ยังเหมือนเดิม แต่ ASUS ได้อัปเกรดส่วนประกอบอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น RAM LPDDR5X-7500 ความเร็วสูง 24GB (จากเดิม 16GB) และ SSD M.2 ความจุ 1TB (จากเดิม 512GB) ที่สำคัญคือ ASUS เลือกใช้ SSD แบบ 2280 ทำให้ผู้ใช้มีตัวเลือกในการอัปเกรดที่หลากหลายขึ้นในอนาคต ไม่ต้องจำกัดอยู่แค่ SSD แบบ 2230 เหมือนรุ่นก่อนหน้า
ไดรเวอร์ของ ROG Ally X ก็ได้รับการปรับแต่งให้ทำงานได้ลื่นไหลขึ้น ส่งผลให้ประสิทธิภาพโดยรวมดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด บางเกมเฟรมเรทเพิ่มขึ้นถึง 5-10%
ผลการทดสอบกับเกม Shadow of the Tomb Raider ที่ความละเอียด 720p กราฟิกสูงสุด พบว่า ROG Ally X ทำได้ 54 fps ในโหมดประสิทธิภาพ และ 64 fps ในโหมด Turbo ในขณะที่ ROG Ally รุ่นแรกทำได้ 54 fps และ 60 fps ตามลำดับ ส่วน Cyberpunk 2077 นั้น ROG Ally X ทำได้ถึง 78 fps ในโหมด Turbo เทียบกับ 69 fps ในรุ่นแรก ซึ่งเป็นผลมาจาก RAM ที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง
ด้วยการอัปเกรดทั้งหมดนี้ ทำให้ ROG Ally X กลายเป็นหนึ่งในเกมพกพาที่ทรงพลังที่สุดในตลาด แซงหน้า Lenovo Legion Go ที่ใช้ชิปประมวลผลตัวเดียวกัน แต่มี RAM น้อยกว่า 8GB
ซอฟต์แวร์: ใช้งานง่ายขึ้น รวบรวมเกมไว้ในที่เดียว
Armoury Crate ได้รับการปรับปรุงใหม่ ให้ใช้งานง่ายและตอบสนองได้ดีขึ้น สามารถรวบรวมเกมและ Launcher ต่าง ๆ ไว้ในที่เดียว รวมถึงปรับแต่งการตั้งค่าต่าง ๆ ได้สะดวก เช่น ปรับแต่งไฟ RGB, ตั้งค่าประสิทธิภาพ, ดูสถานะเครื่อง เป็นต้น
แม้โดยรวมแล้ว Armoury Crate จะยังไม่ลื่นไหลเท่า Steam OS ของ Valve ก็ตาม แต่ก็ถือว่า ASUS ได้พัฒนาขึ้นมาไกลมาก และสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ดีขึ้นกว่าเดิม
แบตเตอรี่และพอร์ต: อึด ถึก ทน เชื่อมต่อได้หลากหลาย
ปัญหาใหญ่ของ ROG Ally รุ่นแรกอย่างแบตเตอรี่ที่หมดไว ได้รับการแก้ไขแล้วใน ROG Ally X ด้วยการเพิ่มความจุเป็นสองเท่าเป็น 80Wh ทำให้สามารถเล่นเกมได้นานขึ้นเป็น 2-2.5 ชั่วโมง (หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับการตั้งค่า)
ASUS ยังได้เปลี่ยนพอร์ตเชื่อมต่อ XG Mobile ที่เป็นเอกสิทธิ์ เป็น USB-C ที่รองรับ Thunderbolt 4 ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น จอภาพ, เมาส์, คีย์บอร์ด, ฮาร์ดดิสก์ รวมถึง eGPU ด้วย ทำให้ ROG Ally X สามารถแปลงร่างเป็น PC ขนาดย่อมได้ในพริบตา
สรุป: เกมพกพา สุดแกร่ง คู่ควรกับเกมเมอร์ตัวจริง
ASUS ROG Ally X คือวิวัฒนาการขั้นสุดของเกมพกพา แก้ไขจุดด้อยของรุ่นก่อนหน้าได้อย่างหมดจด ทั้งจอยสติ๊กที่แม่นยำขึ้น ประสิทธิภาพที่สูงขึ้น และแบตเตอรี่ที่อึดขึ้น แม้จะมีขนาดใหญ่และหนักขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อการพกพา
อย่างไรก็ตาม ราคาที่สูงขึ้นเป็น 800 ดอลลาร์ อาจทำให้หลายคนลังเล เมื่อเทียบกับ ROG Ally รุ่นแรกและ Steam Deck ที่มีราคาถูกกว่า แต่ถ้าคุณกำลังมองหาเกมพกพา PC ที่ดีที่สุดในตลาด ROG Ally X คือคำตอบที่ไม่ทำให้ผิดหวัง
จุดเด่น
- ออกแบบใหม่จับถนัดมือยิ่งขึ้น
- แบตเตอรี่อึดขึ้น 2 เท่า
- แรมเยอะจุใจ
- หน้าจอ VRR สว่างสดใส
- จัดเต็มด้วยพอร์ต USB-C สองพอร์ต
จุดด้อย
- ราคาสูงกว่ารุ่นก่อนหน้า
- ประสบการณ์การใช้งาน Windows บนพีซีพกพายังไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร
- น่าจะมีขาตั้งในตัวหรือเคสแถมมาให้ในกล่อง
- จอยสติ๊กยังไม่ใช่แบบ Hall effect
ที่มา : Engadget
- สาย USB typec สําหรับ ASUS ROG Gladius III/ROG Keris/ROG Chakram เมาส์สําหรับเล่นเกมไร้สาย/ROG Strix Scope/Falchion คีย์บอร์ดไร้สาย
- 2025 ASUS Zenbook 14 UX3405CA Ultra 9 285H 14” 2.8K (2880 x 1800) 120Hz ASUS Laptop ASUS Lingyao 14
- Global Rom Asus ROG Phone 9 Pro ROG Phone 9 Snapdragon 8 Elite 5800mAh 65W ROG Gaming Phone | สนับสนุนไทยและ Google