แบบสำรวจเผย คนส่วนใหญ่เริ่มตื่นตระหนกเมื่อแบตเตอรี่โทรศัพท์ลดลงเหลือ 38%

อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยังคงเป็นข้อกังวลหลักสำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนและอุปกรณ์พกพา ในขณะที่นักวิจัยกำลังสำรวจทางเลือกอื่นนอกเหนือจากลิเธียมไอออน ผู้ผลิตมักจะพึ่งพาโซลูชันที่ใช้ซอฟต์แวร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแทน การศึกษาล่าสุดชี้ให้เห็นว่าความกังวลเกี่ยวกับอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่เหลือนั้นเริ่มขึ้นเร็วกว่าที่คิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ใช้ที่อายุน้อยกว่า
จากการสำรวจออนไลน์โดย Talker Research พบว่าชาวอเมริกันเริ่มกังวลเกี่ยวกับอายุการใช้งานแบตเตอรี่โทรศัพท์เมื่อแบตเตอรี่เหลือเฉลี่ย 38% บางคนอาจมองว่าเกณฑ์นั้นค่อนข้างสูง เพราะโดยทั่วไปแล้ว iPhone จะไม่ออกคำเตือนจนกว่าแบตเตอรี่จะลดลงเหลือน้อยกว่า 20%
ในบรรดาผู้ตอบแบบสอบถามชาวอเมริกัน 2,000 คน ส่วนใหญ่รายงานว่าจะตื่นตระหนกก่อนคำเตือน 20% ของ Apple ยังพบว่าคนรุ่นเก่ามีความกังวลเกี่ยวกับอายุการใช้งานแบตเตอรี่น้อยลงเรื่อยๆ Millennials และ Generation Z (เกิดหลังปี 1981) เริ่มกังวลเมื่อโทรศัพท์ของพวกเขาอยู่ที่เฉลี่ย 43% ตามมาด้วย Generation X (1965 ถึง 1980) ที่ 38% ส่วน Boomers (เกิดระหว่างปี 1946 ถึง 1964) ไม่เริ่มรู้สึกวิตกกังวลจนกว่าโทรศัพท์ของพวกเขาจะลดลงเหลือ 34%
การศึกษายังระบุว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ (61%) เลือกที่จะแสดงเปอร์เซ็นต์ที่แน่นอนบนตัวบ่งชี้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ ส่วนที่เหลืออีก 39% ชอบไอคอนแถบแบตเตอรี่ที่เรียบง่ายกว่า
สุขภาพแบตเตอรี่ที่ลดลงเป็นแหล่งที่มาหลักของความวิตกกังวลสำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟน แม้ว่าผู้ผลิตจะยังหาวิธีป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลาได้ แต่การปรับเปลี่ยนซอฟต์แวร์ได้ช่วยลดปัญหาลงได้บ้าง ตัวอย่างเช่น โหมดการชาร์จที่ปรับให้เหมาะสมของ Apple จำกัดการชาร์จที่สูงกว่า 80% เพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ในระยะยาว หรือ โทรศัพท์ Pixel 9a ของ Google จะลดอายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุดโดยอัตโนมัติหลังจากรอบการชาร์จทุกๆ 200 รอบ